วิธีขจัดกลิ่นห้องน้ำให้หอมสดชื่นตลอดวัน (ไม่พึ่งสเปรย์)
1. การกำจัดต้นตอของกลิ่นและทำความสะอาด
ทำความสะอาดสม่ำเสมอ: เน้นที่โถสุขภัณฑ์, ท่อน้ำทิ้ง, และบริเวณที่มักมีความชื้นและแบคทีเรียสะสม เช่น พื้น, ผนัง, และซอกมุม
ใช้น้ำส้มสายชู: ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:1 ฉีดพ่นหรือราดบริเวณที่มีกลิ่น หรือเทลงในโถส้วม/ท่อน้ำทิ้ง ทิ้งไว้ 15-30 นาที แล้วขัดล้างออก น้ำส้มสายชูมีฤทธิ์ช่วยฆ่าเชื้อและขจัดคราบ
ใช้สารฟอกขาว (กรณีกลิ่นรุนแรง): เทสารฟอกขาวลงในโถส้วม ทิ้งไว้ 15-30 นาทีแล้วขัดล้าง (ระวังอย่าใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของแอมโมเนีย)
ใช้เบกกิ้งโซดา: โรยเบกกิ้งโซดาในโถส้วมหรือท่อน้ำทิ้งทิ้งไว้ หรือใช้ผสมกับน้ำมันหอมระเหยทำเป็นก้อนดับกลิ่น
ตรวจสอบและรักษาความสะอาดของท่อ/ทางระบายน้ำ: กลิ่นเหม็นมักมาจากท่อระบายน้ำหรือชักโครกที่ไม่สะอาด
2. การสร้างกลิ่นหอมจากธรรมชาติ
สมุนไพรสด: วางสมุนไพรสด เช่น มะกรูด (ผ่าครึ่ง), ใบเตย (มัดรวมกัน), หรือ ตะไคร้ ไว้ในห้องน้ำ กลิ่นหอมระเหยจะช่วยดับกลิ่นได้ดีและดูเป็นธรรมชาติ
ถ่านดูดกลิ่น: วางถ่านไม้ก้อนใหญ่ไว้ในห้องน้ำเพื่อช่วยดูดซับกลิ่นและความชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นอับ
กาแฟ: วางเกล็ดกาแฟหรือเมล็ดกาแฟคั่วบดใส่ภาชนะเปิดไว้ในห้องน้ำ กลิ่นกาแฟเข้มข้นช่วยกลบกลิ่นได้
น้ำมันหอมระเหย DIY:
ขวดโหลเบกกิ้งโซดา: ตักเบกกิ้งโซดาใส่ขวดโหลเล็ก ๆ แล้วหยด น้ำมันหอมระเหย กลิ่นที่ชอบ (เช่น ลาเวนเดอร์, ตะไคร้, เลมอน) ลงไป 2-3 หยด หรือผสมน้ำมันหอมระเหยกับเบกกิ้งโซดาทำเป็นก้อนดับกลิ่น
ก้านไม้หอม (Reed Diffuser): ผสมน้ำเปล่ากับน้ำมันหอมระเหยในขวดโหลแก้ว แล้วนำแท่งไม้กกหรือหวายมาเสียบ กลิ่นจะกระจายตัวได้ดี
3. การระบายอากาศ
เปิดระบายอากาศ: สำคัญที่สุด คือการเปิดหน้าต่าง หรือเปิดพัดลมดูดอากาศ/เครื่องระบายอากาศทุกครั้งหลังใช้งาน และเปิดทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้อากาศหมุนเวียนและลดความชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของกลิ่นอับ
การแก้ที่ต้นเหตุด้วยการทำความสะอาดและระบายอากาศ ควบคู่ไปกับการใช้กลิ่นหอมจากธรรมชาติ จะช่วยให้ห้องน้ำของคุณหอมสดชื่นได้ตลอดวันโดยไม่ต้องพึ่งสเปรย์เลย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น